นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวและมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปใช้สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ระบาดทุกจังหวัด
นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาล ได้บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคโควิด 19 ระลอกเดือนเมษายน เร่งรัดการฉีดวัคซีนในบุคลากรและกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มเตียงในโรงพยาบาล/ โรงพยาบาลสนาม จัดหายาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด และมอบให้กรมการแพทย์แผนไทย
นำ “สมุนไพรฟ้าทะลายโจร” มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 20 มิลลิกรัมต่อแคปซูล จำนวน 6 แสนแคปซูล
ส่งให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ พร้อมใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยร่วมกับการรักษาการแพทย์แผนปัจจุบัน ได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ราย ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า
มีผลยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส เมื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย (ไม่มีภาวะปอดอักเสบ) ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการที่ดีขึ้น
และแทบไม่พบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “สมุนไพร” เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและพร้อมนำไปช่วยในการรักษาควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย
ดำเนินการศึกษานำร่อง ผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยโรคโควิด 19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ และต่อมาจึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรปราการขยายผลต่อยอดงานวิจัยในผู้ป่วย
เพื่อกำหนดขนาดการใช้ และความปลอดภัย ผลการศึกษาเบื้องต้นในผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 180 มิลลิกรัม/วัน ผู้ป่วยทุกราย มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ของการได้รับสารสกัด และทุกรายไม่มีอาการข้างเคียง มีโอกาสที่จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้
ทางด้านแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของโรคไวรัสโควิด 19 ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ร่วมมือกับ 9 โรงพยาบาลของรัฐ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข
ใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย จำนวน 309 คน พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ 306 รายมีอาการดีขึ้นชัดเจนในห้าวันจนหายดีและไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยมีเพียง 3 รายหรือ 0.97%
ที่อาการแย่ลงและเกิดภาวะปอดบวม ขณะที่ผู้ป่วยอีก 526 ราย ที่ไม่ได้รับฟ้าทลายโจรมีอาการแย่ลงถึง 77 ราย
คิดเป็น 14.64% ซึ่งความแตกต่างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่ฟ้าทะลายโจรมีโอกาสเป็นทางเลือกที่ดีมากในการรักษาผู้ป่วยโควิดในระยะเริ่มต้นและอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ ยังมีผลการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ
ที่มีผลสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับการศึกษานี้ด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่ปลูกได้ง่ายมีราคาถูก คือประมาณ 180 บาทเท่านั้นสำหรับการรักษาผู้ป่วยหนึ่งราย
ขณะนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม ในการศึกษาวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการร่วมรักษาโรคโควิด 19
โดยได้ออกแบบการศึกษาวิจัยเป็นแบบสุ่ม และมีกลุ่มเปรียบเทียบ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือให้มากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล และส่งต่อตัวอย่างของอาสาสมัครทั้งหมดให้แก่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการเพาะเลี้ยงเชื้อ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย และเผยแพร่ความก้าวหน้าของผลการวิจัยต่อไป
ข้อแนะนำวิธีการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด 19 ที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ ให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 60 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น (รวม 180 มิลลิกรัมต่อวัน) ติดต่อกันนาน 5 วัน ข้อควรระวัง คือ ผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และควรระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจมีอาการชาตามมือตามเท้า และมีปัญหากับตับ ไต ได้