นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 รับทราบตามมาตรการกระทรวงการคลังที่มอบหมายให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการพักชำระหนี้ต้นเงิน ภายใต้มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ระลอกใหม่ (ระลอก 3) ตามความสมัครใจ โดย ธ.ก.ส. ได้กำหนดพักชำระหนี้ต้นเงินให้กับเกษตรกร และบุคคล ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล)สหกรณ์ (ไม่รวมสหกรณ์ออมทรัพย์ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ) กลุ่มเกษตรกร กลุ่มบุคคล กองทุนหมู่บ้านหรือ ชุมชนและองค์กร ที่มีสัญญาเงินกู้และมีต้นเงินคงเป็นหนี้ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2564 และเป็นหนี้ที่ถึงกำหนดชำระตั้งแต่งวดเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นไป และต้องไม่เป็นหนี้ตามโครงการนโยบายรัฐ หรือโครงการที่ได้รับการช่วยเหลือหรือมีเงื่อนไขตามมาตรการอื่น ๆ จำนวน 2.82 ล้านราย
ทั้งนี้ เพื่อคลายความกังวลใจและลดภาระการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวให้แก่ลูกหนี้ โดยลูกหนี้สามารถนำเงินงวดที่จะต้องชำระหนี้ไปเป็นสภาพคล่องในการดำเนินชีวิตประจำวัน และการประกอบธุรกิจ
โดยในส่วนของการพักชำระหนี้จะพิจารณาจากการกำหนดงวดชำระหนี้ตามศักยภาพของเกษตรกร บุคคล สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และนิติบุคคล ซึ่งจะพักชำระต้นเงินออกไป 6 เดือนถึง 1 ปี นับจากงวดที่ถึงกำหนดชำระเดิม และเป็นไปตามความสมัครใจของลูกค้า โดยลูกค้าต้องชำระเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น
นายธนารัตน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเปิดให้บริการขอสินเชื่อสู้ภัย COVID – 19 สำหรับเกษตรกร ลูกจ้างภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID – 19 และเพื่อป้องกันการเป็นหนี้นอกระบบ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 และเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์การเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินได้ผ่านช่องทาง LINE Official BAAC Family เว็บไซต์ https://www.baac.or.th และ Call Center 02 555 0555 พร้อมทั้งสามารถแจ้งความประสงค์ขอใช้สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ผ่าน LINE Official BAAC Family ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564