ไอแบงก์ขอเวลา 5 ปีแก้ปัญหาเงินกองทุนติดลบได้เกือบ 4 พันล้านได้หมด พร้อมปักธงยุทธศาตร์ด้านพันธกิจครบรอบ 20 ปีตั้งเป้าเป็นธนาคารที่ชาวมุสลิมใช้บริการมากขึ้น และเป็นสถาบันการเงินที่ยึดหลักซะรีอะฮ์เพื่อความยั่งยืน
ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามหรือไอแบงก์ กล่าวในงานแถลงข่าวทิศทางธุรกิจของไอแบงก์ปี 2566 เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีของธนาคาร โดยได้ปรับวิสัยทัศน์ของธนาคารใหม่ เป็นสถาบันการเงินที่ให้บริการตามหลักซะรีอะฮ์เพื่อความยั่งยืน ยกระดับการให้บริการของธนาคารให้เท่าเทียมสถาบันการเงินอื่น และมุ่งเน้นให้พี่น้องมุสลิมได้ใช้บริการของธนาคารได้ครบตามหลักศาสนา รองรับประชากรส่วนใหญ่ในเขตภาคใต้ เพิ่มจำนวนบัญชีจาก 4 แสนคนให้ได้เป็น 1 ล้านคนจากชาวมุสลิม 2.5 ล้านคนในประเทศไทย
นอกจากนั้นจะขยายสินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ให้เพิ่มมากขึ้น โดยให้การสนับสนุนทั้งลุกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ “ธรกิจการท่องเที่ยวที่เติบโต โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางที่เคร่งศาสนา ต้องการการท่องเที่ยวที่ครบวงจรและมีฮาลาล ด้วย ซึ่งในจุดนี้ธนาคารจะเข้าไปให้สินเชื่อในส่วนของโรงแรมที่ให้บริการครบวงจรเพิ่มมากขึ้นเพราะท่องเทียวของไทยกำลังกลับมา
ส่วนเรื่องของการแก้ปัญหาหนี้ที่ยังมีหนี้ที่ถือได้ว่ามีปัญหาอยู่ระหว่างการเจรจา หรือ นอน เพอร์ฟอร์มมิ่ง ไฟแนนซ์ จำนวน 13,000 ล้านบาทนั้นจากการท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ธนาคารกับลูกค้าได้พูดคุยกันอย่างใกล้ชิดและเชื่อว่าจะหาจุดที่ลงตัวให้เสร็จภายในปีนี้เพื่อเข้าสู่ขบวนการปรับโครงสร้างหนี้ ก็จะทำให้ฐานะของธนาคารดีขึ้น
ดร.ทวีลาภ เชื่อว่าภายใต้ยุทธศาตร์และแนวทางที่ดำเนินการตามกรอบของคณะกรรมการนี้คาดว่าภายใน 5 ปีจะสามารถทำให้ฐานะการเงินของธนาคารจากเงินกองทุนที่ติดลบกว่า 3,000 ล้านบาทกลับมาไม่ติดลบได้สำเร็จ