TRENDING: SME D Bank ได้คะแนนปรับเพิ่ม ผลประเมิน Fair Finance ปี 2566 Read More

TRENDING: CKPower กวาดรายได้ 10,941 ล้านบาท ปี 66 Read More

TRENDING: SME D Bank ผนึกกำลัง ดีพร้อม – บสย. ติดปีกเอสเอ็มอี Read More

TRENDING: รวมพล..คนฮัจย์ Read More

TRENDING: EXIM BANK คว้ารางวัล Leadership Excellence Award Read More

กรกฎาคม 22, 2023

2 แบงก์รัฐผนึกกำลัง สั่นระฆังโครงการ “SME D EXIM ARI CONNEXT”

เติมเต็มบริการ พร้อมติดปีก SMEs สู่ตลาดโลก

2 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้กระทรวงการคลัง “SME D Bank” และ “EXIM BANK” สร้างมิติใหม่ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไทย ผนึกกำลังเดินหน้าโครงการ “SME D EXIM ARI CONNEXT” เชื่อมโยงการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ได้ครอบคลุมทุกระดับและทุกกลุ่มธุรกิจอย่างไร้รอยต่อ ทั้งด้านแหล่งทุน และด้านพัฒนาเพิ่มทักษะความรู้ ผลักดันสู่การเติบโตยั่งยืน

วันนี้ (21 ก.ค.66) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank และ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การส่งเสริมแหล่งทุนและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs สู่การค้าระหว่างประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน” (โครงการ “SME D EXIM ARI CONNEXT” เติมทุน เสริมทักษะ ยกระดับ SMEs ไทย สู่เวทีโลก) โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนและสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทย ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงบริการด้านการเงิน ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อหรือร่วมลงทุน ควบคู่ด้านการพัฒนา ช่วยเพิ่มศักยภาพธุรกิจ ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน ผลักดันกิจการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

 นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแต่ละแห่ง ต่างมีภารกิจหลัก และจุดเด่นเฉพาะตัว  ความร่วมมือครั้งนี้จะนำจุดเด่นของทั้ง SME D Bank และ EXIM BANK  มาให้บริการผู้ประกอบการ SMEs ได้อย่างครบถ้วน   โดยเชื่อมโยงข้อมูล และส่งต่อการให้บริการระหว่างกันตามความเหมาะสมของผู้ประกอบการ SMEs แต่ละราย  เปิดโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงได้รับเสริมทักษะเติมความรู้จากทั้งสองสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ SME D Bank  พร้อมให้บริการด้าน “การเงิน” ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อเอสเอ็มอี คลอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ นำไปใช้ได้ทั้งเสริมสภาพคล่องกิจการ ลงทุน ปรับปรุง ขยาย ปรับเปลี่ยนธุรกิจ  เงินทุนหมุนเวียน หรือรีไฟแนนซ์ วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ผ่อนชำระนานสูงสุด 15 ปี และปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 24 เดือน ควบคู่บริการด้าน “การพัฒนา” ผ่านโครงการ SME D Coach ให้บริการคำปรึกษาแนะนำ โดยโค้ชมืออาชีพ ช่วยเพิ่มศักยภาพให้เอสเอ็มอีเดินหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

  ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
(
EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK บูรณาการการทำงานร่วมกับ SME D Bank อย่างไร้รอยต่อในครั้งนี้
เพื่อให้บริการเติมความรู้ เติมโอกาส เติมเงินทุนอย่างครบวงจรและตอบทุกโจทย์ (Total Solutions) ของผู้ประกอบการ SMEs ไทยตลอด Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เชื่อมโยงไปสู่ Supply Chain การค้าโลก
โดยผู้ประกอบการที่เข้ามาติดต่อ EXIM BANK จะได้รับอบรมบ่มเพาะโดย EXIM BANK ร่วมกับ SME D Bank และพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนจนสามารถเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจภายในประเทศได้อย่างแข็งแรง เมื่อพร้อมจะขยายธุรกิจสู่การส่งออก ทั้งสองธนาคารพร้อมสนับสนุนวงเงินหมุนเวียน (Working Capital) และเงินกู้  (Loans) ในรูปแบบ อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขที่ผ่อนปรน ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะของทั้งสองสถาบันการเงินที่แตกต่างกัน ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจภายในประเทศจะได้รับการสนับสนุนโดย SME D Bank และผู้ส่งออกที่ต้องการเงินทุนเกิน 50 ล้านบาทจะได้รับการสนับสนุนโดย EXIM BANK นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ อาทิ ประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อ
ในต่างประเทศ บริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าและประกันค่าเงิน สำหรับบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น

“SMEs ในระบบมีจำนวนมากกว่า 3 ล้านราย แต่มีบทบาทต่อ GDP เพียง 35% และเป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1%
ซึ่งนับเป็นสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน EXIM BANK จึงเร่งสานพลังกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มจำนวน
ผู้ส่งออก SMEs เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองสำคัญขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของไทยและโลก” ดร.รักษ์ กล่าว